โคตรอินดี้ เฮง-บุรินทร์ทร แซ่ล้อ

1871

 

รู้จักงานของกลุ่มโคตรอินดี้  

บุรินทร์ทร แซ่ล้อ หรือ คุณเฮง  โต้โผในการจัดเทศกาลดนตรีอินดี้

ด้วยบุคลิกสุดจะอินดี้ที่อยู่ในตัว  เฮง บุรินทร์ทร แซ่ล้อ ขวัญใจชาวอินดี้ จะมาถ่ายทอดอัพเดตงานของเขาให้เราฟังกัน ว่า เขาทำอะไรอยู่ตอนนี้

อยากให้แนะนำธุรกิจที่ทำตอนนี้ ว่าทำอะไรอยู่ล่าสุด

ตอนนี้ที่ทำอยู่ ก็จะมี 4 ส่วนด้วยกัน  ส่วนแรกคือทำค่ายเพลงนะครับ  ชื่อว่า ค่ายเพลงเดอะทาวน์เฮาส์ ตอนนี้ก็มีศิลปินล่าสุดก็จะมี คุณกวิน 3.2.1 ที่ได้ออกจากค่ายอาร์เอส มาอยู่ด้วยกัน และคุณจอร์นนิเฟอร์ The Voice 3 และจะมีร็อคเกอร์บินส์ และก็คุณสุกัญญา มิเกล  ซึ่งค่ายเพลงเราก็จะมีศิลปินในสังกัดและเราจะดูแลในส่วนฝ่ายขายให้กับศิลปิน ในสังกัดชองเราก็จะมีศิลปินอิสระอยู่ด้วย  ก็คือว่าเราสร้างและประชาสัมพันธ์ขึ้นเอง  ผลิตเอง สนับสนุนช่องทางของการจัดจำหน่ายให้ครบวงจร

อีกส่วนก็จะเป็นส่วนของงาน Event Organizer ก็จะรับจัดงาน Event Organizer ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานเปิดตัวแถลงข่าว และเปิดตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ  ทั้งในส่วนของการประชาสัมพันธ์ หรือ  PR  ครอบคลุมทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์  บันเทิง   คอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี  ปาร์ตี้  รวมทั้งการวางแผนการตลาดให้กับลูกค้าและสินค้าใหม่

ส่วนต่อไป คือ ส่วนที่เราเรียกว่า “ความฝัน” เป็นส่วนที่เราจะ “สร้างสรรค์” จัดงานอีเว้นท์ขึ้นมาเอง  คิดงานที่เรารักเอง และเราจะหาเพื่อนๆมาร่วมงานกัน

สุดท้ายก็จะเป็น ส่วนงานบริการการเช่าระบบ พวกจอ LED แสง สี เสียง  โดยทั้งหมดนี้ขอบเขตงานเราหลักๆ ก็จะมีอยู่ 4 ส่วนใหญ่ๆ

เป้าหมายหลักของธุรกิจคืออะไร

คือจริงๆแล้ว เป้าหมายหลักของธุรกิจ เราไม่ได้แสวงหากำไรแบบสุดโต่ง เพราะว่าส่วนหนึ่งในองค์กรของเราทำงานแบบไม่เอาเงิน  พุดง่าย ๆ ว่า เป็นงานแบบการกุศลครึ่งหนึ่ง   ถ้าถามถึงเป้าหมายหลัก  คือเราปรารถนาที่เราจะจัดงานดี ๆ ของตัวเอง คิดเอง ทำเอง และมีสื่อมวลชนมาร่วมงานด้วย

 

ได้ใช้การตลาด แบบดิจิทัล เข้ามาช่วยในธุรกิจอย่างไรบ้าง

จริงๆก็ทุกช่องทางเลยนะครับ ดิจิทัลเป็นเหมือนการประชาสัมพันธ์  ช่องทางการจัดจำหน่าย และก็ สนามเล่นโปรโมชั่น ลูกเล่นต่างๆ ของกลุ่มเราก็คงไปในทางเล่นในโลกดิจิทัลออนไลน์ เกือบ 100%  ในปัจจุบัน

 

ในยุคปัจจุบัน เราจะเห็นว่าทั้งธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ ก็สนใจทำการตลาดผ่านดิจิทัล มองว่ามีโอกาสและอุปสรรคอย่างไรบ้าง

ถ้าในเรื่องของการทำธุรกิจทางการตลาดออนไลน์ มันก็มีแต่ผลดีอยู่ที่เราจะจะต้องปรับตัว และเลือกกลยุทธ์ที่จะใช้ให้เหมาะสม แน่นอนอยู่ที่เราว่าจะปรับตัวได้เร็วขนาดไหน เรียนรู้ได้เร็วขนาดไหน  สำหรับเราเราต้องเรียนรู้ตลอดอยู่แล้ว  แต่สุดท้ายก็ต้องรู้กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน  ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมาย แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่ากลยุทธ์เหล่านั้น คือ คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำ  ทุกอย่างเป็นเหมือนแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เพลง หรือสินค้าต่างๆ  ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไป ไม่จีรัง แต่ถ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเรารักมันก่อนแล้ว แผนที่ดีจะเกิดขึ้นตามมา และ งานจะออกมาดี

 

 มองว่าปัจจุบันคนหันมาทำการตลาดดิจิทัลเยอะจนอิ่มตัวหรือยัง

ตอนนี้เอาจริงๆนะ  เชื่อว่าคนไทย 70 ล้านคน ก็มีการเล่นออนไลน์ ทำการตลาดแบบดิจิทัลต้องถามกลับว่ารู้ถึงรากจริงๆรึยัง  คนที่รู้จะมีสักกี่คน  ผมเชื่อว่า การตลาดแบบออนไลน์มันยังไปได้อีกไกล และอนาคตจะมีเว็บไซต์ต่างๆ ธุรกิจเกี่ยวกับโลกดิจิทัลเกิดขึ้นอีกมากมาย

ในปัจจุบันเราจะเห็นว่ามีการขายแบบออนไลน์ โดยไม่ต้องมีหน้าร้านก็ได้โดยขายผ่านทาง เฟสบุ๊ค ไอจี  ก็อยากจะฝากถึงบุคคลที่มีความรู้ก็ลองไปให้ความรู้ กระจายความรู้ไปถึงคนที่ยังไม่รู้  ให้เขามีความสามารถในการใช้สื่อขึ้นมา  พี่เชื่อว่ายังมีประชาชนอีกเยอะ และยังมีประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดที่เค้ายังต้องการความรู้อีกแยะ

ผมว่า คำว่าอิ่มตัว คงอีกนานกว่าจะมาถึง เพราะการตลาดแบบดิจิทัล ยังมีการพัฒนาอยู่ตลอด จนทำให้สื่อเก่าพวกหนังสือพิมพ์  นิตยสารได้ปิดตัวลง  สื่อเก่ากำลังจะตายและสื่อใหม่เข้ามาแทนที่  พูดได้ว่า นาคตจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ยังไม่รู้  ถ้าอยากจะอยู่รอด และ ประสบความสำเร็จก็ต้องหาความรู้ตลอดเวลา

 

จุดมุ่งหมายและเป้าหมายสูงสุดของคืออะไร

ถ้าถามว่าอะไรคือ เป้าหมายสูงสุดของพี่ก็คงเป็นเรื่องของการศึกษา  เราอยากทำโรงเรียนให้ความรู้คน อันนี้ถือเป็นเป้าหมายสูงสุด เราอยากให้คนไทยรวยความรู้  ถ้ามีความรู้ทุกอย่างก็จะตามมาเอง อยากให้ทุกคนมาแบ่งปันให้สังคม

 

สัมภาษณ์โดย วิภาวี บุญมากุล และ คุณัญญา ฤทธิพงษ์