ประเด็นสำคัญในสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าด้วยการสานต่อหลักห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติต่อที่ประชุมเนื่องในโอกาสครบรอบ ๗๐ ปี การประกาศหลักห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ (ได้แก่ การเคารพซึ่งกันและกันต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน การไม่รุกรานซึ่งกันและกัน การไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน การมีความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ) ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒๘ มิ.ย.๖๗ กล่าวคือ
“…เมื่อ ๗๐ปีที่แล้ว หลักห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งกลายเป็นความคิดริเริ่มที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและมีความสำคัญต่อยุคสมัย…จำเป็นต้องสานต่อหลักห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติต่อไป ภายใต้สถานการณ์ใหม่และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติเป็นแรงผลักดันอันแข็งแกร่งต่อความก้าวหน้าของอารยธรรมมนุษย์…”
“…หลักห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติถือกำเนิดขึ้นในเอเชียและเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ ประเทศในเอเชียและแอฟริกามากกว่า ๒๐ ประเทศได้เข้าร่วมการประชุมที่บันดุง และเสนอหลักการ ๑๐ ประการเพื่อจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆ ตามหลักห้าประการ เพื่อสนับสนุนความสามัคคี จิตวิญญาณแห่งมิตรภาพและความร่วมมือแห่งบันดุงซึ่งเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ ๑๙๖๐ ได้นำหลักการห้าประการมาเป็นหลักการชี้นำ ซึ่งได้บรรจุไว้ในเอกสารสำคัญระหว่างประเทศชุดหนึ่งอย่างต่อเนื่อง และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและปฏิบัติตามจากประชาคมระหว่างประเทศ…”
“…ประการแรก หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติห้าประการได้กำหนดเกณฑ์มาตรฐานทางประวัติศาสตร์สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ …”
“…ประการที่สอง หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติห้าประการ ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องในการสถาปนาและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีระบบสังคมต่างกัน …”
“…ประการที่สาม หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติห้าประการ ได้รวบรวมพลังอันทรงพลังเพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนารวมตัวกัน ร่วมมือกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งด้วยความสามัคคี …”
“…ประการที่สี่ หลักห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้มีส่วนสนับสนุนภูมิปัญญาทางประวัติศาสตร์ในการปฏิรูปและปรับปรุงระเบียบระหว่างประเทศ …”
“…๗๐ ปีที่แล้ว เมื่อเผชิญกับหายนะอันน่าสลดใจของสงครามที่ร้อนระอุและการเผชิญหน้าอันแตกแยกของสงครามเย็น คนรุ่นนั้นได้ให้คำตอบทางประวัติศาสตร์แก่หลักห้าประการของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อรักษาสันติภาพและปกป้องอธิปไตย …”
“…วันนี้ ๗๐ ปีต่อมา ต้องเผชิญกับประเด็นสำคัญว่า โลกนี้จะสร้างอย่างไร และจะสร้างโลกนี้ได้อย่างไร จีนได้ให้คำตอบแห่งยุคแห่งการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ขณะนี้ การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติได้พัฒนาจากความคิดริเริ่มของจีนได้ขยายไปสู่ฉันทามติระดับนานาชาติ เปลี่ยนจากวิสัยทัศน์ที่สวยงามไปสู่การปฏิบัติอันอุดมสมบูรณ์ และผลักดันโลกอย่างมีประสิทธิภาพไปสู่อนาคตที่สดใสแห่งสันติภาพ ความมั่นคง ความเจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้า …”
“…แนวคิดนี้มีพื้นฐานอยู่บนความเป็นจริงตามวัตถุประสงค์ที่ว่าชะตากรรมของประเทศต่างๆ เกี่ยวพันกัน รวมทั้งได้กำหนดตัวอย่างใหม่ของความเท่าเทียมและการพึ่งพาอาศัยกัน จีนสนับสนุนทุกประเทศ โดยไม่คำนึงถึงขนาด ความเข้มแข็ง หรือจุดอ่อน ไม่ว่ารวยหรือจนก็เป็นสมาชิกที่เท่าเทียมกันในประชาคมระหว่างประเทศ ในกิจการระหว่างประเทศ ประเทศต่างๆ มีผลประโยชน์ร่วมกัน มีสิทธิร่วมกัน และมีความรับผิดชอบร่วมกัน ประเทศต่างๆ ทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายและบรรลุความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน สร้างโลกแห่งสันติภาพที่ยั่งยืน และความมั่นคงสากล ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ความเปิดกว้าง ความครอบคลุม ความสะอาดและสวยงาม และการผลักดันสังคมมนุษย์ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงยิ่งขึ้น…”
“…แนวคิดนี้สอดคล้องกับแนวโน้มของช่วงเวลาแห่งสันติภาพ การพัฒนา และความร่วมมือแบบ win-win รวมทั้งเปิดอาณาจักรแห่งสันติภาพและความก้าวหน้าใหม่ จีนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีอนาคตของมนุษยชาติ มีประชาชนในใจและยึดมั่นในความเสมอภาค ผลประโยชน์ร่วมกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติภาพซึ่งเป็นปณิธานดั้งเดิม สืบสานค่านิยมร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ส่งเสริมธรรมาภิบาลระดับโลกโดยอาศัยการปรึกษาหารืออย่างกว้างขวาง การมีส่วนร่วมร่วมกันและผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ ดำเนินข้อริเริ่มด้านการพัฒนาระดับโลก ข้อริเริ่มด้านความมั่นคงระดับโลก และข้อริเริ่มด้านอารยธรรมระดับโลก ร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง และเพิ่มผลประโยชน์ร่วมกันในหมู่ประชาชนจากทุกประเทศ…”
“…ขอร่วมรำลึกครบรอบ ๗๐ ปี การตีพิมพ์หลักห้าประการแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้น แบกรับภารกิจทางประวัติศาสตร์ และก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างกล้าหาญ เพื่อร่วมกันผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติและสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นให้กับสังคมมนุษย์…”
ประมวลโดย พลโท ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.gov.cn/yaowen/liebiao/202406/content_6959889.htm และเว็บไซต์ https://www.takungpao.com/news/232108/2024/0628/985814.html )