วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา นายเดวิด หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สื่อ เนื่องในโอกาสที่หัวเว่ย (หัวเหวย) ได้ลงทุนในประเทศไทยมานานถึง 25 ปี พร้อมเผยถึงแผนการนำเทคโนโลยีเครือข่าย 5.5G เข้ามาสู่ประเทศไทยภายในปีหน้า รวมถึงตอบคำถามประเด็นสำคัญที่หลายคนสนใจ ทั้งเรื่องการลงทุน เทคโนโลยี รวมถึงกระแสต่อต้านการลงทุนจากธุรกิจจีน
ในงานเปิดบ้านครั้งนี้หัวเหวยได้หยิบยกโครงการต่างๆ ที่บริษัทได้ร่วมส่งเสริมและพัฒนาในประเทศไทยมาตลอด 25 ปี เช่น การพัฒนาด้านการศึกษา โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี 5G รวมถึงสาธารณสุขระบบ 5G และโครงการ Healthcare อีกหลายรายการเป็นประโยชน์ทางการแพทย์
การลงทุนในไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา หัวเหวยให้คุณค่ากับการพัฒนาบุคลากรชาวไทย เช่น ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อบ่มเพาะการใช้งานเทคโนโลยียุคใหม่แก่นักเรียนนักศึกษาชาวไทย ทั้งยังร่วมมือกับสตาร์ทอัปท้องถิ่นอย่างแข็งขัน ในการพัฒนาบุคลากร โดยได้สร้างงานแล้วมากกว่า 5,500 ตำแหน่ง หัวเหวยยังย้ำถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนในประเทศไทยในระยะยาว เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของเม็ดเงินหรือผลประโยชน์ แต่เป็นการเติบโตร่วมกัน อันเป็นเป้าหมายการลงทุนของหัวเหวยในไทย
กรณี “กระแสต้านจีน” ผู้บริหารหัวเหวยมองว่าไม่กระทบเป้าหมายการลงทุนในไทย เพราะไทยและจีนต่างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกัน และหัวเหวยเป็นบริษัทลงทุนในไทยมายาวนาน และเน้นลงทุนในไทยระยะยาว ไม่เน้นเติบโตเพียงฝ่ายเดียว เพราะต้องช่วยพัฒนาประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน
