ปักกิ่ง, ประเทศจีน – เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ศาสตราจารย์ กั๋ว เหยียนจุน ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์วิจัยประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ และนักวิจัยประจำสถาบันเอเชียศึกษา วิทยาลัยกิจการต่างประเทศจีน ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อสำคัญว่าด้วย “ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-อาเซียน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลก” โดยเป็นการบรรยายให้แก่คณะผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนไทยที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะ ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และศูนย์การศึกษาและฝึกอบรม สำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน (CICG)
ศาสตราจารย์กั๋วเริ่มต้นด้วยการแสดงความรู้สึกที่ดีต่อประเทศไทย พร้อมยืนยันถึงความปลอดภัยและเสน่ห์ของการท่องเที่ยวในไทย ก่อนจะเข้าสู่ประเด็นหลักของการบรรยาย โดยชี้ให้เห็นถึงพลวัตของดุลอำนาจโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตะวันออก โดยเฉพาะจีน ที่มีบทบาทโดดเด่นในฐานะฐานการผลิตและส่งออกที่แข็งแกร่ง แม้ว่าการพิจารณาเพียง GDP อาจไม่เพียงพอ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตของจีนในภาคอุตสาหกรรมระหว่างประเทศนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ผู้อำนวยการสถาบันเอเชียศึกษาฯ ยังกล่าวถึงการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาค โดยจีนได้ดำเนินนโยบายการทูตในภูมิภาคใกล้เคียงอย่างจริงจัง เพื่อตอบโต้ต่อยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้ามายังจีน ซึ่งจีนเองก็มีแนวทางการดำเนินงานที่คล้ายคลึงกัน โดยให้อาเซียนเป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญในการดำเนินนโยบายต่างประเทศในภูมิภาค
ศาสตราจารย์กั๋วเน้นย้ำถึงความแตกต่างในเป้าหมายของการแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยจีนให้ความสำคัญกับการเติบโตไปด้วยกัน ในขณะที่สหรัฐฯ มุ่งเน้นการพัฒนาร่วมกันผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบ ซึ่งค่านิยมในการพัฒนาที่แตกต่างกันนี้เอง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มประเทศอาเซียน
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอาเซียนได้รับการย้ำเตือนถึงความสำคัญอย่างยิ่ง โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับอาเซียนเป็นอย่างมาก และมีการจัดการประชุมร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในระยะยาว นอกจากนี้ หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ยังได้เคยกล่าวถึงการส่งเสริม “ค่านิยมเอเชีย” ที่เน้นสันติภาพ ความร่วมมือ การเปิดกว้าง และการหลอมรวม เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประชาชนในภูมิภาค
สำหรับแนวทางนโยบายการทูตของจีนต่อประเทศเพื่อนบ้านในยุคใหม่ มุ่งเน้นการขยายความร่วมมือในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาสายอาชีพ อุดมศึกษา การเทียบเท่าวุฒิการศึกษา การเพิ่มทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน การอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา รวมถึงการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ศิลปะ เยาวชน การท่องเที่ยว ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น สื่อ และภาคประชาชน
ศาสตราจารย์กั๋วได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของความสัมพันธ์จีน-อาเซียน และการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยในปี 2568 มีแผนการสำคัญในการเชื่อมโยงด้านการสื่อสารและการคมนาคมของอาเซียน เข้ากับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 ของจีน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในภูมิภาคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในการปิดท้ายการบรรยาย ศาสตราจารย์กั๋ว เหยียนจุน ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของอาเซียนในฐานะศูนย์กลางของความร่วมมือในภูมิภาค และการใช้กรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เป็นกลไกหลักในการสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายจากความเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกในปัจจุบัน
