ในฐานะประธานาธิบดีของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ความยากจนจึงถือเป็นปัญหาที่สีจิ้นผิงไม่สามารถจัดการได้โดยง่ายเลย
ภายใต้การชี้นำประเทศเวลา 4 ปีของสีจิ้นผิง ประธานาธิบดี วัย 63 ปี ของประเทศจีน เขาได้เดินทางไปเยือนหมู่บ้านที่ยากจนกว่า 30 แห่งและมีส่วนร่วมในการดำเนินงานขจัดความยากจนอย่างถาวรมาเป็นเวลานานหลายปี ในสงครามต่อต้านความยากจน เขาได้ยืนหยัดต่อสู้กับมันอยู่ในแถวแนวหน้า
หากมองย้อนกลับไป จะเห็นได้ชัดเจนว่าสีจิ้นผิงมีความรู้ความเข้าใจในปัญหานี้อย่างลึกซึ้ง ทั้งยังมีแผนมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือคนยากจนตลอดการดำเนินงานในเส้นทางการเมืองของเขา ตั้งแต่วันที่เขาได้เติบโตขึ้นจากการเป็นชายหนุ่มที่ทำงานในหมู่บ้านอันห่างไกลในมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน จนมาถึงวันที่เขากลายเป็นคนใหญ่คนโตที่ทำงานเพื่อประเทศชาติ
เขามักจะพูดถึงประสบการณ์ที่เผชิญกับปัญหาความยากจนในชีวิตของเขา ทั้งยังได้แสดงความคิดเห็นและมุมมองต่างๆ เกี่ยวกับวิธีในการจัดการกับมัน อย่างเช่น การย้ายออกจากที่อยู่เดิมถือเป็นวิธีการสำคัญในการต่อสู้กับความยากจน และการให้ความสำคัญกับบทบาทของระบบนิเวศจะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้อยู่อาศัย
เดือนมกราคมที่ผ่านมา ระหว่างการเยือนพื้นที่ทางภาคเหนือของมณฑลเหอเป่ย สีจิ้นผิงได้กล่าวว่า การต่อสู้กับความยากจนเป็นงานพื้นฐานสำหรับการสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลาง
ในปี 2020 ประเทศจีนได้กำหนดเป้าหมายจะสร้างสังคมจีนให้เป็นสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในระดับปานกลางโดยสมบูรณ์ ซึ่งหมายถึงจะยุติปัญหาความยากจนในประเทศจีนให้หมดไปโดยสิ้นเชิง