ภาพของเฝิงหมิง (冯明) อากงวัย 92 ปี และจางผิง (张萍) อาม่าวัย 95 ปี คู่รักที่แต่งงานมานาน 66 ปี กำลังบอกลากันก่อนที่อากงจะสิ้นใจ ซึ่งอาม่าจับมืออากงไว้แน่นและพูดว่า “ตาแก่ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันนะ ไปอย่างสบายเถอะ ฉันจะดูแลตัวเองอย่างดี” พออากงได้ยินน้ำตาก็คลอเบ้าขึ้นมา ทำให้คนที่อยู่ในห้องถึงกับน้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ชาวเน็ตคนหนึ่งพอเห็นรูปก็ให้ความเห็นว่า “เข้าใจแล้วว่าอะไรคือ ที่เรียกว่าจับมือแล้วแก่ไปด้วยกัน มันทำให้ฉันน้ำตาจะไหล” ชาวเน็ตอีกคนให้ความเห็นว่า “อากงอาม่าทำให้โลกนี้ยังเชื่อในความรัก” และ “ทำให้ฤดูหนาวนี้ อบอุ่นขึ้นมาทันใด”
จางอี้เหมย ลูกของอากงอาม่าเล่าว่า ทั้งสองคนดูแลกันเป็นอย่างดี “วันนี้จะใส่อะไร อาบน้ำตอนไหน ผ้าห่มหนาพอหรือไม่”
เธอยังเล่าว่า แต่ก่อนพ่อเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นพลทหารบกในการปฏิวัติ ส่วนแม่ก็เป็นสมาชิกในพรรค ในช่วงปลดแอกประชาชน ทั้งคู่ก็ได้พบรักกันในพรรคคอมมิวนิสต์และแต่งงานกันในปี 1950
หลังจากแต่งงานกันแล้ว พ่อก็เล่าว่าให้ลูกคนแรกใช้แซ่ตามเขา ส่วนลูกคนที่สองให้ใช้แซ่จางตามแม่ “เพื่อความเสมอภาคชาย-หญิง” ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความรักของพ่อที่มีต่อแม่
ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม พ่อก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยต้องไปทำงานอย่างยากลำบากที่ชนบทเกือบ 20 ปี ส่วนแม่ก็ตามไปดูแล พึ่งพาและผ่านร้อนหนาวมาด้วยกัน จนก่อตัวเป็นความรักที่ลึกซึ้ง
ถึงแม้ว่าในปี 1978 อากงจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานของรัฐบาลในท้องถิ่นจนเกษียณในเวลาต่อมา แต่ทั้งสองก็ไม่ได้พักผ่อนอยู่เฉยๆ ยังออกไปบริจาคเงิน ช่วยสอนหนังสือและช่วยเหลือคนที่ยากไร้